“ การส่งเสริมสุขภาพกลุ่มสตรีเพื่อเฝ้าระวังโรคมะเร็งปากมดลูก ”
บริบท
โรคมะเร็งเป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศ ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตของประชาชนและสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการรักษาพยา- บาลเป็นจำนวนมาก ในปัจจุบันโรคมะเร็งเป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งในประเทศไทย และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นจากสถิติการคาดประมาณจำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งในปี พ.ศ.2542 พบว่ามีจำนวนผู้ป่วยใหม่ 87,060 รายโรคมะเร็งที่พบมากที่สุดในประเทศไทย คือ โรคมะเร็งตับ รองลงมาคือโรค มะเร็งปอด มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม ตามลำดับ
โรคมะเร็งปากมดลูก ซึ่งเป็นโรคมะเร็งที่พบเป็นอันดับหนึ่งในผู้หญิงไทย ในการดำเนินงานเกี่ยวกับการป้องกันและควบคุมโรคมะเร็งปากมดลูก ควรจะดำเนินการในด้านการตรวจหาโรคมะเร็งให้ได้ตั้งแต่อยู่ในระยะเริ่มแรก ซึ่งสามารถทำการรักษาให้หายได้ และเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการรักษามะเร็งในระยะลุกลาม ทำให้ลดอัตราการเกิดโรคมะเร็งและอัตราตายจาก โรคมะเร็งได้อย่างเป็นรูปธรรมควรจะต้องมีแผนดำเนินงานที่ชัดเจน มีความเป็นไปได้ที่จะนำไปปฏิบัติและสามารถทำการวัดผลได้
ในประเทศไทยพบผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกรายใหม่ประมาณ 6,200 คน/ปี ในปีพ.ศ. 2539 อุบัติการณ์ของโรคมะเร็งปากมดลูกในกรุงเทพ เป็น 20.7 ต่อสตรีแสนคน พบผู้ป่วยใหม่ในระยะลุกลามจำนวน 1,880 ราย
สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทำแผนดำเนินการเพื่อให้สะดวกและง่ายในการปฏิบัติงานและให้เหมาะสม กับทรัพยากรที่มีอยู่ และเป็นไปได้ในการปฏิบัติเพื่อให้สตรีกลุ่มเป้าหมายอายุ 35 – 60 ปี ทุกคนได้รับการตรวจ Pap Smear 1 ครั้ง ทุก 5 ปี โดยให้สตรีปกติอายุ 35 , 40 , 45 , 50 , 55 และ 60 ปีทุกคนและสตรีที่มีอาการแสดงที่สงสัยว่าเป็นโรคมะเร็ง ปากมดลูกทุกคนได้รับการตรวจ Pap Smear และในรายที่มีผลผิดปกติจะได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคมะเร็งปากมดลูกโดยมีระบบส่งต่ออย่างครบวงจร
การที่ทำ Pap Smear 1 ครั้งทุก 5 ปี เนื่องจากขบวนการเกิดโรคมะเร็งหลังจากที่มีการ ติดเชื้อ Human Papilloma Viruses ชนิด High – risk types จะใช้เวลานานกว่า 10 ปี ในการทำให้เกิดเป็น Invasive Cancer
จากผลการศึกษาของ International Agency for Research on Cancer (IARC/WHO) พบว่าถ้าทำ Pap Smear 1 ครั้งทุกปี, 1 ครั้งทุก 2 ปี หรือ 1 ครั้งทุก 3 ปี จะมีอัตราการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูกลดลงร้อยละ 91 – 93 ทำ Pap smear 1 ครั้งทุก 5 ปีจะลดลงร้อยละ 84 (โดยทำ screen ในผู้หญิงอายุ 35 – 64 ปี)
จากผลการศึกษาในหลายประเทศแสดงให้เห็นว่าการตรวจคัดกรองด้วยการทำ PapSmear ให้ครอบคลุมกลุ่มสตรีเป้าหมายทั้งหมด มีความ สำคัญต่อการลดอัตราการเกิดและอัตราตายจากโรคมะเร็งปากมดลูกมากกว่าความถี่ที่ได้รับการตรวจแต่ไม่ครอบคลุมประชากรทั้งหมด
หน่วยบริการสุขภาพปฐมภูมิ : ศูนย์สุขภาพชุมชนดอนตาลและสถานีอนามัยเครือข่ายได้จัดโครงการรณรงค์การตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี Pap smear ในสตรีกลุ่มเสี่ยงอย่างเนื่อง จากการดำเนินงานได้มีการเก็บข้อมูลความสำเร็จของการดำเนินงาน ปี 2549 – 2551 พบว่า สตรีกลุ่มเสี่ยงมารับการตรวจ Pap smear ร้อยละ 78.82, 83.09 และ 85.42 ตามลำดับ จากข้อมูลและการดำเนินงานดังกล่าวพบว่าปัญหาอุปสรรคมากกมาย โดยส่วนใหญ่พบว่า เกิดจากประชากรกลุ่มเสี่ยงขาดความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งปากมดลูกและขาดความตระหนักในการดูแลสุขภาพตนเองซึ่งเกิดจากความเขินอายอาชีพที่ไม่เอื้ออำนวยความ ไม่สะดวกในการเดินทางมารับบริการและขาดแคลนบุคลากรที่มีความรู้ความชำนาญในการตรวจมะเร็งปากมดลูก
ดังนั้นงานส่งเสริมสุขภาพจึงได้จัดทำโครงการพัฒนาคุณภาพนี้ขึ้นเพื่อให้เกิดผลประโยชน์ต่อประชากรกลุ่มเสี่ยงมากที่สุดและเพื่อให้เกิดมาตรฐานเกิดประสิทธิภาพในการทำงานอย่างต่อเนื่อง
วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้สตรีกลุ่มเสี่ยงได้รับการตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี Pap smear
2. เพื่อให้สตรีกลุ่มเสี่ยงได้รับความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งปากมดลูก
3. เพื่อให้สตรีกลุ่มเสี่ยงผลการตรวจผิดปกติได้รับการดูแลและรักษาอย่างถูกต้อง
4. เพื่อให้สตรีกลุ่มเสี่ยงมีความรู้และเกิดความตระหนักในการตรวจมะเร็งปากมดลูก
5. เพื่อให้เกิดการบริการที่ได้มาตรฐานและมิประสิทธิภาพ
6. เพื่อให้เกิดนวัตกรรมที่ทันสมัยและได้มาตรฐาน
รายละเอียดตัวชี้วัด ( KPI Template ) การประเมินผลงาน ปีงบประมาณ 2552
ประเด็น : การคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม ( น้ำหนักร้อยละ 1.5 )
มิติที่ 1 ด้านประสิทธิผลการปฏิบัติราชการ
ตัวชี้วัดที่ 1 : สตรีอายุ 35,40,45,50,55 และ 60 ปี ได้รับการคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูกโดยวิธี Pap smear
หน่วยวัด : ร้อยละของจำนวนกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับการตรวจคัดกรอง
เป้าหมาย : ร้อยละ 55 ( 60 )
คำอธิบาย : การตรวจปากมดลูกโดยวิธี Pap smear หมายถึง การตรวจโดยการเก็บหรือป้ายเอาเซลล์จากปากมดลูกไปป้ายลงบนแผ่นสไลด์ ทำการย้อมสีและอ่านผล โดยบุคลากรเซลล์วิทยา
สูตรการคำนวณ : จำนวนสตรีอายุ 35,40,45,50,55 และ 60 ปีที่ได้รับการ pap smear (คน) x 100
จำนวนสตรีอายุ 35,40,45,50,55 และ 60 ปี ในเขตรับผิดชอบ
แหล่งข้อมูล : 1. รายงานประจำเดือน แยกรายสถานบริการ
2. ทะเบียนสตรีอายุ 35,40,45,50,55 และ 60 ปี ในการตรวจ Pap smear
วิธีการจัดเก็บข้อมูล สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร :
1.ผู้รับผิดชอบงานระดับอำเภอรวบรวมข้อมูลผลการตรวจคัดกรองแยกรายสถานบริการ ส่งข้อมูลตามแบบฟอร์มรายงานมะเร็งปากมดลูก โดยส่งข้อมูลไม่เกินวันที่ 5 ของทุกเดือน
2. รวบรวมรายงานจากพื้นที่ Key เข้าระบบรายงาน E-inspection ภาพรวมจังหวัด
ตัวชี้วัดที่ 2 : สตรีอายุ 35,40,45,50,55 และ 60 ปี ที่มีผลผิดปกติ ( Epithelial cell Abnormality ) ได้รับการส่งต่อ
หน่วยวัด : ร้อยละของจำนวนกลุ่มเป้าหมายที่ตรวจพบเซลล์ผิดปกติและได้รับการส่งต่อ
เป้าหมาย : ร้อยละ 100
น้ำหนัก : ร้อยละ 0.5
สูตรการคำนวณ : จำนวนสตรีกลุ่มเป้าหมายที่มีผลผิดปกติได้รับการส่งต่อ X 100
จำนวนสตรีกลุ่มเป้าหมายผลผิดปกติ หมวด 200 และ 300 ตามแบบรายงาน The Bethesda
แหล่งข้อมูล : 1. รายงานประจำเดือน แยกรายสถานบริการ
2. ทะเบียนผู้ที่ตรวจพบเซลล์ผิดปกติได้รับการส่งต่อ
เกณฑ์การให้คะแนน
ตัวชี้วัด | หน่วยนับ | เกณฑ์การให้คะแนน | ||||
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | ||
1. สตรีอายุ 35,40,45,50,55 และ 60 ปี ได้รับการคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูกโดยวิธี Pap smear | ร้อยละ | ผลงาน ≤ ร้อยละ29 | ผลงาน ร้อยละ 30-49 | ผลงานร้อยละ 50-69 | ผลงานร้อยละ 70-79 | ผลงาน ≥ ร้อยละ 80 |
2. สตรีอายุ 35,40,45,50,55 และ60ปีที่มีผลผิดปกติ(Epithelial cell Abnormality ) ได้รับการส่งต่อ | ร้อยละ | ผลงาน ≤ ร้อยละ 59 | ผลงาน ร้อยละ 60-69 | ผลงานร้อยละ 70-79 | ผลงานร้อยละ 80-99 | ผลงานร้อยละ 100 |
ข้อมูลก่อนการแก้ปัญหา
ผลการดำเนินการรณรงค์ตรวจมะเร็งปากมดลูกในปีงบประมาณ 2549 - 2551
ตารางที่ 1 แสดงผลการดำเนินงานตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี Pap smear ปีงบประมาณ 2549 - 2551 ของศสช.ดอนตาล
ลำดับ | ปีงบประมาณ | จำนวนประชากรกลุ่มเป้าหมาย | ผลการดำเนินงาน | |
จำนวน | ร้อยละ | |||
1 | 2549 | 614 | 484 | 78.82 |
2 | 2550 | 627 | 521 | 83.09 |
3 | 2551 | 631 | 539 | 85.42 |
ที่มา : สรุปผลงานตามตัวชี้วัดงานสาธารณสุข ปี 2549 – 2551
กระบวนการ/รูปแบบการแก้ไขปัญหา
รูปแบบกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย | ผู้รับผิดชอบ |
1. วางแผนเพื่อระดมความคิดในการดำเนินงานให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย 2.ตรวจสอบ สำรวจกลุ่มเป้าหมายจากทะเบียนราษฎร์ , Pap Registry , Hcis (ประชากรที่มีอยู่จริงในพื้นที่ตามกลุ่มอายุ) 3. ทำทะเบียนบัญชีรายชื่อกลุ่มเป้าหมาย 6 กลุ่มตามพื้นที่ ชุมชน หมู่บ้าน 4. วางแผน กำหนดพื้นที่บริการ กำหนดวัน กำหนดผู้ให้บริการ จัดเตรียมอุปกรณ์ 5.ประชาสัมพันธ์ให้ถึงกลุ่มเป้าหมาย ด้วยวิธีจดหมายถึงเธอ(จดหมายน้อย) หอกระจายข่าว วิทยุชุมชน อสม. เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าหน้าที่ติดตามเยี่ยมบ้านกลุ่มเป้าหมายทุกคน หนังสือเชิญตรวจสุขภาพ เจ้าหน้าที่ Nock door บ้านกลุ่มเป้าหมาย 6. ให้บริการตรวจ 6.1 เชิงรับ - ให้บริการตรวจที่สถานบริการ - ให้ความรู้เรื่องมะเร็งปากมดลูก/เต้านม - จ่ายเวชภัณฑ์ผู้ที่มีอาการผิดปกติ / ส่งต่อ 6.2 เชิงรุก - เจ้าหน้าที่จัดบริการตรวจเคลื่อนที่ในหมู่บ้าน ชุมชน กำหนดจุดบริการที่บ้านแกนนำชุมชน - ให้ความรู้มะเร็งปากมดลูก | จนท.เครือข่ายบริการ เครือข่ายบริการ จนท.เครือข่ายบริการ จนท.เครือข่ายบริการ เป้าหมาย 6 กลุ่มอายุและประชาชนกลุ่มสตรีที่รักสุขภาพ จนท.เครือข่ายบริการ | เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบโดยตรงด้านการให้บริการเชิงรับ เชิงรุก - จรรยา - สมร - ธรรมนอง - วัฒนพร - วาสนา - สุภาณี - เกยูร เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลโปรแกรม Pap Registry /รับ-ส่ง Slide - กฤษณชัย - พงษ์ยุทธ - ประหยัด - วิริยารัตน์ - เทอด - จรรยา ผู้ประสานงานระหว่างเครือข่าย PCU และ CUP - มนตรี สกุลเดช |
กระบวนการ/รูปแบบการแก้ไขปัญหา(ต่อ)
รูปแบบกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย | ผู้รับผิดชอบ |
6.2 เชิงรุก(ต่อ) - จัดรถรับ – ส่ง - กระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายรับบริการตรวจ ฯโดย อสม. สามี ญาติ - อบรมเชิงปฏิบัติการกลุ่มแกนนำเรื่องมะเร็งปากมดลูก - ติดตามกลุ่มเป้าหมายเข้ารับบริการด้วยโทรศัพท์ - เจ้าหน้าที่ตรวจ ฯ ถึงบ้าน - มอบของขวัญรางวัลผู้มารับบริการ - มอบของขวัญรางวัลแก่อสม. หมายเหตุ ผู้รับบริการสามารถเลือกผู้บริการตรวจมะเร็งปากมดลูกได้ 7. บันทึกข้อมูลการตรวจใน Pap registry และส่งข้อมูลออกให้หน่วยอ่าน โรงพยาบาลมุกดาหาร ในรูปแบบ electronic file 8. รับผลการตรวจทาง email ,ใบแจ้งผลการตรวจจากโรงพยาบาลมุกดาหาร 9. แจ้งผลการตรวจแก่ผู้รับบริการ 9.1 ปกติ - จดหมายแจ้งผลการตรวจ - แจ้งผลการตรวจผ่าน อสม. - เจ้าหน้าที่แจ้งทางโทรศัพท์ , ตัวต่อตัว ปากต่อปาก 9.2 ผิดปกติ - แจ้งผลการตรวจโดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขโดยเยี่ยมบ้าน นัดมาสถานบริการ โทรศัพท์ | เป้าหมาย 6 กลุ่มอายุและประชาชนกลุ่มสตรีที่รักสุขภาพ จนท.เครือข่ายบริการ | เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบโดยตรงด้านการให้บริการเชิงรับ เชิงรุก - จรรยา - สมร - ธรรมนอง - วัฒนพร - วาสนา - สุภาณี - เกยูร |
กระบวนการ/รูปแบบการแก้ไขปัญหา(ต่อ)
รูปแบบกิจกรรม | กลุ่มเป้าหมาย | ผู้รับผิดชอบ |
- ดูแลสุขภาพใจคนในครอบครัว10. ให้การรักษา /ส่งต่อ 10. ตรวจซ้ำ 4 – 6 เดือน 11. เยี่ยมบ้าน ส่งเสริมสนับสนุนกำลังใจในรายผลตรวจผิดปกติ 12. ประเมินผลการดำเนิน 3 เดือน 6 เดือน 12.1 ระดมสมองเพื่อค้นหาวิธีการดำเนินงานในเครือข่ายหน่วยบริการที่ผลงานต่ำกว่าเป้าหมาย 12.2 ปรับเปลี่ยนรูปแบบ ร่วมค้นหากลวิธีในการให้บริการเชิงรุกให้เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งกำหนด เวลา สถานที่ - เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ - เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย - พูดคุยในรายที่มีปัญหาทุกคน เพื่อทราบความต้องการที่แท้จริง รวมทั้งนำส่งสถานบริการที่ต้องการจะไปตรวจ (รัฐ เอกชน ) | เป้าหมาย 6 กลุ่มอายุและประชาชนกลุ่มสตรีที่รักสุขภาพ จนท.เครือข่ายบริการ | เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบโดยตรงด้านการให้บริการเชิงรับ เชิงรุก - จรรยา - สมร - ธรรมนอง - วัฒนพร - วาสนา - สุภาณี - เกยูร |
การมีส่วนร่วมของชุมชน องค์กรภาคี
1. เจ้าหน้าที่ - ทำงานเป็นทีม กำหนดผู้รับผิดชอบชัดเจน
- ร่วมรณรงค์ให้บริการตรวจร่วมกัน
- เอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ ระหว่างเครือข่ายหน่วยบริการ
- สร้างความสมัครสมานสามัคคี เจ้าหน้าที่ในเครือข่าย
- สนับสนุน วัสดุอุปกรณ์การดำเนินงานและอำนวยงาน ติดตามประเมินผลโดย CUP มีผู้ประสานการดำเนินงานระหว่าง PCU และ CUP
2. อสม. แกนนำชุมชน - ร่วมตรวจสอบกลุ่มเป้าหมาย
- ประสานงานกับกลุ่มเป้าหมายในชุมชน
- ติดตามกลุ่มเป้าหมายให้เข้ารับบริการ
- ประชาสัมพันธ์ให้เข้ารับการตรวจ ทั้งเชิงรับ และเชิงรุก
- ให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์ของการตรวจมะเร็งปากมดลูก
ผลการดำเนินงาน
ผลการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี Pap smear ปีงบ 2552
ลำดับ | หน่วยบริการ | เป้าในทะเบียนบ้าน | เป้าอยู่จริง | ผลงาน | ร้อยละตามเป้าฯ | ร้อยละอยู่จริง |
1 | สอ.บ.ภูล้อม | 18 | 18 | 16 | 88.89 | 88.89 |
2 | สอ.บ.บ้านบาก | 95 | 92 | 82 | 86.32 | 89.13 |
3 | สอ.บ.นายาง | 83 | 76 | 64 | 77.11 | 84.21 |
4 | สอ.บ.นาสะเม็ง | 150 | 142 | 116 | 77.33 | 81.69 |
5 | สอ.บ.หนองกระยัง | 81 | 75 | 64 | 79.01 | 85.33 |
5 | ดอนตาล | 237 | 227 | 205 | 86.49 | 90.3 |
รวม | 664 | 630 | 547 | 82.37 | 86.83 |
ตรวจมะเร็งปากมดลูก จำนวน 547 คน ผลตรวจ 100 Negative for Intraepithelial จำนวน 543 คน
Cirvix inflam จำนวน 13 คน
Cirvixcitis จำนวน 6 คน
Myoma จำนวน 2 คน
รอผล Cyto จำนวน - คน
ผู้ที่มารับบริการตรวจพบสิ่งผิดปกติ จำนวน 4 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.73 และได้ส่งต่อรับการรักษาและตรวจซ้ำที่โรงพยาบาลมุกดาหาร ครบทุกราย คิดเป็นร้อยละ 100 ผลตรวจพยาธิสภาพ ผลปกติทั้ง 2 ราย รอผลการตรวจซ้ำครั้งที่ 2 จำนวน 2 ราย
ปัจจัยแห่งความสำเร็จ
1. ประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น เน้นการสร้างกระแสในชุมชน โดยเฉพาะในช่วงที่มีการรณรงค์ หรือการใช้อาสาสมัครที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งปากมดลูกช่วยรณรงค์ให้กลุ่มเป้าหมายเห็นความสำคัญ
2. มีการพัฒนาศักยภาพของ อสม. สร้างแรงจูงใจให้ อสม. ในการชักชวนกลุ่มเป้าหมายมาตรวจ Pap smear
3. ในการแจ้งกลุ่มเป้าหมายให้มาตรวจ แจ้งกับกลุ่มเป้าหมายโดยตรงโดยใช้จดหมายตาม และในการรณรงค์ตรวจ Pap smear ปรับให้เข้ากับปฏิทินชุมชน คือควรรณรงค์ตรวจ Pap smear ในช่วงที่กลุ่มเป้าหมายว่างจากการทำนา ทำไร่
4. ใช้ 4 M ที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพ อสม., แกนนำชุมชน/ครอบครัว , ผู้ดูแลคนไข้ที่บ้าน, ศูนย์สุขภาพชุมชน ฯลฯ
5. กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายในการรณรงค์ป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ในการปฏิบัติงาน ดังนั้นทางสถานีอนามัยได้มีโครงการรองรับในการตรวจมะเร็งปากมดลูก อีกทั้งทางโรงพยาบาลดอนตาล (กลุ่มงานเวชปฏิบัติครอบครัวและชุมชน) ได้ออกตรวจที่สถานีอนามัย ทำให้กลุ่มเป้าหมายได้รับความสะดวกสบายในการรับบริการ ไม่ว่าจะเป็นระยะทางในการเดินทางที่ใกล้ความรวดเร็วในการตรวจ และประชาชนยังได้รับข้อมูลข่าวสารเรื่องมะเร็งปากมดลูก
ประโยชน์ที่ประชาชนได้รับ
- ประชาชนได้รับการตรวจมะเร็งปากมดลูก
- ประชาชนได้รับความรู้ ความเข้าใจและตระหนึกถึงประโยชน์ของการตรวจมะเร็งปากมดลูก
- ประชาชนได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
- ประชาชนมีสุขภาพดี
ปัญหา อุปสรรค
- มีความอาย
- ความเชื่อ ค่านิยม ส่วนบุคคล
- โสด และทอม
- ขาดความตระหนักในการป้องกันโรคและการดูแลสุขภาพตนเอง
แนวทางการแก้ไข PCU
- เสริมสร้างองค์ความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชนให้ครอบคลุมและทั่วถึง
- ให้บริการตามความต้องการของผู้รับบริการ
- จัดทำวารสาร แผ่นพับเพื่อให้ทราบถึงประโยชน์ของการตรวจสุขภาพ
CUP
- สนับสนุนงบประมาณ เวชภัณฑ์ ยานพาหนะ
- เสริมสร้างขวัญและกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงาน
ข้อเสนอแนะเพื่อการศึกษา
ควรศึกษาเปรียบเทียบระหว่างพื้นที่ที่มีผู้มารับบริการตรวจเซลล์มะเร็งปากมดลูกมากและพื้นที่ที่มีผู้มารับบริการตรวจเซลล์มะเร็งปากมดลูกน้อยเพื่อหาแนวทางปรับปรุงการดำเนินงาน
ข้อเสนอแนะ ข้อแนะนำ
1. นโยบาย (Organization Polices) การทำงานด้านสาธารณสุขครอบคลุมการดูแลสุขภาพตั้งแต่การเกิดจนถึงตาย การดำเนินงานที่อาศัยความร่วมมือของชุมชนในการดูแลสุขภาพให้ประสบความสำเร็จ ต้องเข้าใจชุมชน งานที่ทำแล้วเข้ากับบริบทชุมชน เช่นประชาชนชาวดอนตาล ประชาชนส่วนใหญ่ทำอาชีพเกษตรกรรม จะให้ชุมชนตั้งกลุ่มทำกิจกรรมออกกำลังกายร่วมกัน เป็นสิ่งที่ได้ยากและเมื่อส่งเสริมให้ประชาชนเรียนรู้ สร้างเครือข่ายแล้วการดำเนินงานจะไม่ยั่งยืนเพราะไม่เข้ากับบริบทชุมชน
2. Base wage or salary ความดีความชอบ ขวัญกำลังใจ การสร้างขวัญกำลังใจการปฏิบัติงานในพื้นที่ทุรกันดารของเจ้าหน้าที่มีความสำคัญมาก เนื่องจากการทำงานมีความยากลำบาก
3. รู้สึกอยากได้รับการยอมรับนับถือ (Feeling of reception) การปฏิบัติงานเชิงรุก ต้องการทำงานบรรลุเป้าหมายครอบคลุม เช่นการคัดกรองเซลมะเร็งปากมดลูก การคัดกรองตรวจสุขภาพประชาชนอายุ 40 ปี ขึ้นไป บุคลากรที่ทำงานต้องการยอมรับและขวัญกำลังใจ ถึงแม้เป็นการปฏิบัติงานประจำ แต่กลยุทธ์การดำเนินงานต้องใช้ความสามารถ ฝันฝ่าความยากลำบาก
4. งบประมาณ ค่าใช้จ่าย Base on budget ให้ความสำคัญและสนับสนุนต่อเนื่อง การดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามีความสำคัญลดน้อยลง เนื่องจากการบริหารงบประมาณลงใน CUP หน่วยบริการจะให้ความสำคัญในการอยู่รอดขององค์กร จะไม่ดำเนินงานในส่วนนี้ และหากหน่วยงานที่เป็นเจ้าของงบประมาณไม่ดำเนินโครงการเอง เช่นโครงการรณรงค์ตรวจเซลมะเร็งปากมดลูกทั้งประเทศ ก็จะทำให้การตรวจ Pap Smear หมดความสำคัญลดลง การที่จะให้องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นและภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการดูแลสุขภาพ เป็นไปได้ยากมากในดินแดนที่ทุรกันดาร ด้านสาธารณูปโภคยังไม่เพียงพอ การจัดสรรงบประมาณส่วนใหญ่ยังคงเน้นด้านสาธารณูปโภคมากกว่า
5. Safety needs ความต้องการความปลอดภัยทางกาย สภาวะการทำงานที่ปลอดภัย การทำงานเชิงรุก เคลื่อนที่ไปในชุมชน และหน่วยบริการที่ห่างไกล สภาพการใช้รถยนต์เคลื่อนที่ต้องมีสภาพพร้อมที่ใช้งานได้ (รถยนต์เจ้าหน้าที่สอ.) มีการตรวจเช็คสภาพเป็นประจำ สถานที่ให้บริการของหน่วยบริการต้องมีความปลอดภัย
มะเร็งปากมดลูกจึงไม่น่ากลัวอย่างที่หลายคนคิด เพราะผู้หญิงมีเวลานานพอที่จะป้องกันด้วยการนำเนื้อเยื่อบริเวณปากมดลูกไป
ตรวจหรือที่เรียกว่า “ ตรวจแป๊ปสเมียร์” หรือถ้าเป็นมะเร็งระยะเริ่มแรกก็สามารถรักษาให้หายขาดได้
"เพื่อให้จำง่ายในการปฏิบัติทุกคนควรจะตรวจเมื่อ อายุ 35, 40, 45, 50, 55 และ 60 ปี"
ตรวจ PAP ไม่น่าอาย ตรวจได้ รักษาได้หายขาด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น