healthy@nasameng

วันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2554

แนวทางการดำเนินงานป้องกันและควบคุมโรคติดต่อระบบทางเดินอาหารและน้ำ

 
 

แนวทางการดำเนินงานป้องกันและควบคุมโรคติดต่อระบบทางเดินอาหารและน้ำ

แบบบูรณาการ จังหวัดมุกดาหาร ปี ๒๕๕๔

การดำเนินงานการ


1.การจัดทีมปฏิบัติงาน   -  ทุกอำเภอมีการจัดตั้งทีมปฏิบัติงานในระดับอำเภอ   ทีม (SRRT)
    การดำเนินการ
1.1 จัดตั้งคณะกรรมการดำเนินงานป้องกันและควบคุมโรคอหิวาตกโรคระดับจังหวัด  โดยให้มีการประสานงานระหว่างศูนย์วิชาการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเทศบาลและ อบต.
1.2 จัดตั้งคณะทำงานป้องกันและควบคุมโรคอหิวาตกโรคระดับอำเภอ เพื่อทำหน้าที่เป็นทีมปฏิบัติงานเฝ้าระวังและควบคุมโรคเชิงรุก
1.3 ประชุมคณะกรรมการและคณะทำงานระดับอำเภอ เพื่อรับทราบแนวทางและรูปแบบ
      การดำเนินงาน 1 ครั้ง ก่อนฤดูกาลระบาด ในช่วงเดือน มกราคม-เมษายน

2. วิเคราะห์ข้อมูลทางระบาดวิทยาเพื่อกำหนดพื้นที่ที่มีโอกาสการเกิดโรคสูง

เกณฑ์มาตรฐาน อำเภอวิเคราะห์และใช้ข้อมูลที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดมาตรการในการป้องกันโรค เช่น
- ร้อยละของผู้ป่วยที่เป็นประชาชนในพื้นที่
- ร้อยละของผู้ป่วยที่เป็นผู้เคลื่อนย้ายมาทำงาน
- สถานที่ซึ่งมักเป็นแหล่งโรคในพื้นที่นั้นๆ เช่น โรงฆ่าสัตว์ ตลาดสด
- ช่วงเวลาที่มักมีผู้ป่วยเกิดขึ้นมาก โดย เฉพาะช่วงเทศกาลต่างๆ โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์
- อาหารที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค เช่น ลาบดิบ  อาหารทะเล  อาหารที่ปรุงจากกะทิ  อาหารสุกๆ ดิบๆ    อื่นๆ
- พฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการติดโรค เช่น ซื้อ/ ปรุงอาหารทิ้งไว้นาน  การเก็บอาหารไว้  นาน นอกตู้เย็น
- เกณฑ์มาตรฐานจากการสำรวจสุขาภิบาลอาหารและสิ่งแวดล้อม
การดำเนินการ
วิเคราะห์หาพื้นที่ /บุคคล/ ปัจจัย ที่เอื้อต่อการระบาดของโรคอหิวาตกโรค
 โดยใช้ข้อมูลแหล่งต่างๆ  เช่น
n    ระบบ รง. ๕๐๖
n    รายงานการสอบสวนโรค
n    ข้อมูลการเฝ้าระวังคุณภาพอาหาร น้ำดื่ม
      ข้อมูลการเฝ้าระวังโรคอุจจาระร่วง เพราะเมื่อจะมีการระบาดของโรคอหิวาตกโรคเกิดขึ้น มักมีผู้ป่วยด้วยโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลันเพิ่มขึ้นผิดปกติเพื่อกำหนด พื้นที่/บุคคล ที่เป็นเป้าหมาย และมาตรการป้องกันการระบาดของโรค

๓. เฝ้าระวังคุณภาพน้ำ และสุ่มตรวจหาเชื้อในอาหาร น้ำดื่ม น้ำใช้ ภาชนะและ
     มือผู้ประกอบอาหารจำหน่าย
เกณฑ์มาตรฐาน
-          น้ำดื่มบรรจุขวดและน้ำดื่มเก็บกักในภาชนะ ตรวจไม่พบโคลิฟอร์มแบคทีเรีย
-          น้ำประปา ตรวจพบปริมาณคลอรีนตกค้างไม่น้อยกว่า ๐. ppm.
-    น้ำใช้ที่เป็นน้ำเก็บกักในภาชนะ ตรวจไม่พบโคลิฟอร์มแบคทีเรีย

วิธีการดำเนินงาน

-          ชุมชน เก็บตัวอย่างน้ำดื่ม น้ำใช้  ทุกครั้งที่สำรวจ  โดยใช้  110 /ชุดตรวจหาคลอรีน ในน้ำในช่วงเดือน มกราคม - มีนาคม  ในระบบประปา ทุกขนาด
-          ตลาดสด/แผงลอย/ร้านอาหาร สุ่มเก็บตัวอย่างอาหาร น้ำแข็ง น้ำดื่ม ภาชนะ และมือผู้ประกอบอาหารจำหน่าย ที่สงสัยว่าจะเป็นพาหะนำโรคได้  ทุกครั้งที่สำรวจโดยใช้  110 และ SI-2 ในช่วงเดือน
      มกราคม - พฤษภาคม

๔. สุ่มตรวจอุจจาระหาเชื้อในผู้ปรุงและจำหน่ายอาหาร  และผู้ที่สงสัย/อาหารที่เสี่ยง
     เพื่อค้นหา อาหาร/ผู้ติดเชื้อ อหิวาตกโรค

เกณฑ์มาตรฐาน

n  ผู้ปรุงและจำหน่ายอาหาร ต้องไม่เป็นพาหะนำโรคอหิวาตกโรค
n  ผู้สงสัยเป็นพาหะนำ/ผู้ป่วย โรคอหิวาตกโรค
n  อาหารที่เสี่ยง
เป้าหมาย
-สุ่มตรวจผู้ประกอบการ/บุคคลเสี่ยง โดยการทำ Rectum  Swab / อาหารที่เสี่ยง ดังนี้
          ๑.ผู้ประกอบการเขียงเนื้อ ทุกราย
          .ผู้ประกอบการปรุงและจำหน่ายอาหาร อื่นๆ หรือ บุคคลเสี่ยง ในเขต สถานบริการสาธารณสุขระดับตำบล  อย่างน้อยแห่ง ละ ๕  ตัวอย่าง โรงพยาบาลชุมชน อย่างน้อย รพ.ละ ๑๐ ตัวอย่าง
          .อาหารที่เสี่ยง เช่น อาหารที่มีแมลงวันตอม  อาหารสำเร็จรูป  อาหารที่ทำจากกะทิ  อาหารทะเล   อาหารประเภทหมัก เป็นต้น   สถานบริการสาธารณสุขระดับตำบล อย่างน้อยแห่ง ละ     ตัวอย่าง      โรงพยาบาล อย่างน้อย รพ. ละ ๓  ตัวอย่าง  โดยเก็บใน Carry  Blair และเก็บรักษาไว้ที่อุณหภูมิ ๒-.c

ระยะเวลาดำเนินการ  1.เก็บตัวอย่างในช่วง  มกราคม - มีนาคม  ๒๕๕๔
                          2.ส่งตัวอย่างในช่วงมกราคม - มีนาคม ๒๕๕๔  โดย สสอ.รวบรวม ส่ง สสจ.
                            3.ดำเนินการควบคุมและป้องกันโรค  หลังทราบผลการตรวจ

.เฝ้าระวังผู้ป่วยโรคอหิวาตกโรคในสถานบริการ
เกณฑ์มาตรฐาน
          - ทำ RSC ในผู้ป่วยนอก (OPD) ร้อยละ ๑๐
          - ทำ RSC ในผู้ป่วยใน  (IPD) ร้อยละ ๑๐๐
          - รพ.สต.เก็บ RSC ในผู้ป่วย Watery   Diarrhea ทุกราย
กรณีผู้ป่วยมีอาการคล้ายโรคอหิวาตกโรคทุกรายทีมแพทย์ต้องรายงานให้ที SRRT และห้องตรวจปฏิบัติการทราบเพื่อออกสอบสวนโรคทันที

๖. จัดเตรียมเวชภัณฑ์ เคมีภัณฑ์และวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมสำหรับสนับสนุนการป้องกันและควบคุมโรค
เกณฑ์มาตรฐาน
          - เวชภัณฑ์ ได้แก่ ORS, Tetracycline
          - เคมีภัณฑ์ ได้แก่ ผงปูนคลอรีน, โซดาไฟ,น้ำยาโซล,
          - Carry  Blair stock ไว้ใน รพ.สต.  จำนวน  ๕ ชุด
          - น้ำยา ว.110,ชุดทดสอบ SI2,ชุดตรวจวัดคลอรีน
เป้าหมายสนับสนุน
   .   น้ำยา ว.110/,ชุดทดสอบ SI2 
 ๒.  Carry  Blair 
 ๓.  ชุดตรวจหาเชื้อ Vibrio

 ๗ .ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขสภาวะสุขาภิบาลและสุขาภิบาลอาหารที่ไม่ได้ตามข้อกำหนดโดยขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เกณฑ์มาตรฐาน
.๑ ชุมชนก่อสร้าง, สถานีขนส่งผู้โดยสาร
   - น้ำดื่ม-น้ำใช้ ได้คุณภาพตามข้อกำหนด
 - มีส้วมเพียงพอ สะอาดและอยู่ในสภาพที่ดี)
   - มีการกำจัดขยะมูลฝอยและระบายน้ำเสีย
.๒ ตลาดสด/แผงลอย/ร้านอาหาร
   - ปรับปรุงสภาพการสุขาภิบาลให้ถูกตามหลักสุขาภิบาลอาหาร
   - ให้มีการล้างตลาดตามหลักสุขาภิบาลโดยมีการใช้สารชำระล้างและสารฆ่าเชื้อโรค
การดำเนินการ
-          ให้ข้อมูลส่วนที่ไม่ได้ตามข้อกำหนดแก่ผู้รับเหมาหรือผู้รับผิดชอบในแหล่งก่อสร้างเพื่อดำเนินการแก้ไขให้ได้มาตรฐาน
-          ประสานงานกับเทศบาล,อบต. การประปา เพื่อให้การสนับสนุนการปรับปรุงแก้ไขในส่วนที่ไม่ได้ตามข้อกำหนด
๘. ให้สุขศึกษาประชาสัมพันธ์ในเรื่องการป้องกันและดูแลรักษาโรคอุจจาระร่วงขั้นต้นแก่ประชาชน
เกณฑ์มาตรฐาน  การประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชน ในเรื่อง
. การล้างมือก่อนรับประทานอาหารและหลังเข้าส้วมด้วยสบู่
. การรับประทานอาหารที่สะอาดและปรุงสุก
. การดื่มและใช้น้ำที่สะอาด
. การส่งเสริมให้มีส้วมที่ถูกสุขลักษณะ มีการใช้และการบำรุงรักษาให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้
. การดูแลระบบการกำจัดน้ำเสียให้ถูกสุขลักษณะ
. การส่งเสริมมารดาให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่
. การส่งเสริมให้รู้จักรักษาโรคอุจจาระร่วงขั้นต้นที่บ้าน กฎ ๓ ข้อ โดยเน้นการให้ ORT, ORS
การดำเนินการ
-          รณรงค์สัปดาห์ป้องกันและดูแลรักษาโรคอุจจาระร่วงขั้นต้นแก่ประชาชน (-๑๗  เมษายน ๒๕๕๓)โดยการให้สุขศึกษาลักษณะรายบุคคลและรายกลุ่มโดยวิธีนัดหมาย  จัดหน่วยประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่ จัดนิทรรศการและใช้สื่อเผยแพร่ต่างๆ  แก่ประชาชนในชุมชน
-การประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่ การใช้สื่อเอกสารสิ่งพิมพ์ ให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการและผู้ขายอาหารเสี่ยง บริเวณตลาดสด/แผงลอย/ร้านจำหน่ายอาหาร ในเรื่อง ความสะดวก การเตรียม และการจำหน่ายอาหาร

๙. สำรวจและเก็บข้อมูลสภาวะสุขาภิบาลอาหารครั้งที่ ๒ เพื่อเปรียบเทียบและประเมินผลความก้าวหน้าของการปรับปรุงแก้ไข
เกณฑ์มาตรฐาน
- มีการปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นภายในระยะเวลา 1 เดือน หลังจากผลการสำรวจครั้งแรก ข้อ ๓
 การดำเนินการ
-          ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการติดตามสำรวจและหาข้อมูล
-          ติดตามและประมวลผลจากการดำเนินงานแก้ไขปรับปรุงในส่วนที่ไม่ได้เกณฑ์มาตรฐาน
10. เมื่อมีรายงานผู้ป่วยโรคอหิวาตกโรคเกิดขึ้น ให้ทีม (SRRT)ออกปฏิบัติงานเพื่อสอบสวนและควบคุมโรคเชิงรุกภายใน ๓ ชั่วโมง นับตั้งแต่ได้รับรายงานและจะต้องควบคุมโรคให้สงบภายใน ๑๐ วัน หรือไม่เกิน generation ที่ ๒
เกณฑ์มาตรฐาน
๑๐.๑ให้การรักษาผู้ป่วย
- ตามแนวทางการบำบัดรักษาของกรมควบคุมโรค
๑๐.๒ ให้มีการค้นหาผู้ป่วยเพิ่มเติมเพื่อให้การรักษาและตัดการแพร่กระจายของโรค
-ผู้สัมผัสโรคใกล้ชิดทุกรายหรือผู้ที่มีประวัติป่วยเป็นโรคอุจจาระร่วงในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา    
  จะต้องได้รับการตรวจอุจจาระหาเชื้อ และได้รับการจ่ายยา Tetracycline ครบทุกรายที่พบเชื้อ
 ๑๐.๓ ดำเนินการทำลายเชื้อในบริเวณที่ตรวจพบเชื้อ หรือสถานที่ที่สงสัยว่าจะเป็นแหล่งแพร่เชื้อ และให้มีการใส่ผงปูนคลอรีนในแหล่งน้ำดื่ม น้ำใช้
- ตามเทคนิคการทำลายเชื้อ
๑๐.๔ สอบสวนเพื่อหาแหล่งโรคและเก็บตัวอย่างอาหาร น้ำ และสิ่งที่สงสัย ตรวจหาเชื้อในตัวอย่างอาหาร น้ำดื่ม น้ำใช้
       - เมื่อมีผู้ป่วยเกิดขึ้นแม้เพียง ๑ ราย ให้ถือว่ามีการระบาด ซึ่งต้องทำการสอบสวนโรคทันทีทุกราย
-          ตรวจหาเชื้อก่อโรคอหิวาตกโรคทางห้องปฏิบัติการ
๑๐.๕ การปรับปรุงคุณภาพน้ำ
- น้ำประปาต้องมีคลอรีนตกค้างไม่น้อยกว่า ๐. ppm.
๑๐.๖ ติดตามเฝ้าระวังในจุดที่เกิดโรคเพื่อควบคุมกำกับและติดตามว่ามีผู้ป่วยใหม่เกิดขึ้นหรือไม่
-          เฝ้าระวังโรค ๑๐ วัน ติดต่อกันเพื่อสามารถวินิจฉัยค้นหาผู้ป่วยใหม่ได้  และซักประวัติหาแหล่งโรค
การดำเนินการ
-ให้มีการรายงานผู้ป่วยที่มีการสงสัยและให้รายงานผลการตรวจอุจจาระหาเชื้อขั้นต้นภายใน 24 ชม. 
  เพื่อดำเนินการควบคุมโรคทันที
-ให้ถือเอายา Tetracycline เป็นยาปฏิชีวนะที่แนะนำให้ใช้เป็นอันดับแรก และจะต้องตรวจอุจจาระผู้ป่วยหลังได้ยาแล้วให้ผลการตรวจไม่พบเชื้อติดต่อกัน ๓ ครั้ง จึงจำหน่ายผู้ป่วย เพื่อป้องกันมิให้มี
   การกลับไปแพร่เชื้อในชุมชน รวมทั้งให้มีระบบการรักษาฟรีทุกรายในพื้นที่ที่มีการเกิดโรค
-          การเลือกใช้ยาปฏิชีวนะต้องคำนึงถึงความไวต่อยา หรือการดื้อยาของเชื้อในท้องถิ่นนั้นๆ ด้วย
-          การทำลายเชื้อและใช้ผงปูนคลอรีนให้ปฏิบัติตามแนวทางของกรมอนามัย
-          เก็บตัวอย่างอาหาร น้ำดื่ม  น้ำใช้ และสิ่งที่สงสัยส่งตรวจทุกแห่ง
-          ตรวจวัดปริมาณคลอรีนตกค้างในน้ำดื่ม-น้ำใช้ หากไม่พบคลอรีน ให้ตรวจหาเชื้อโคลิฟอร์ม
    แบคทีเรียและ Fecal coli form
-          ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น  เทศบาล    อบต.  เป็นต้น
-          เติมคลอรีนในแหล่งน้ำดื่ม ให้มีปริมาณคลอรีนตกค้าง (Residual Chlorine )  ได้ตามข้อกำหนด
-          การเฝ้าระวัง ติดตาม
: ติดตามประสานงานกับผู้นำชุมชน ในการแจ้งข่าวการเกิดโรคและค้นหาผู้ป่วยรายใหม่
: เก็บตัวอย่างอุจจาระผู้ป่วยและผู้สัมผัสที่พบเชื้อส่งตรวจจนผลการชันสูตรไม่พบเชื้อ 3 ครั้ง
: ให้ยาปฏิชีวนะผู้สัมผัสที่ตรวจพบเชื้อทุกคน
: ติดตามให้ผู้ที่ได้ยามีการรับประทานยาตามขนาดและกำหนดเวลาโดยเคร่งครัด

๑๑. ติดตามประเมินผลสำเร็จ และวิเคราะห์ปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงาน และรายงานผล
เกณฑ์มาตรฐาน
         - รายงานการดำเนินการตรวจร้านผลิตน้ำดื่ม / น้ำแข็ง  เดือนเมษายน- พฤษภาคม
         - รายงานสรุปผลการสอบสวน ควบคุมโรค กรณีมีผู้ป่วยอหิวาตกโรค
         - รายงานสรุปผลการค้นหาอาหาร/ผู้ติดเชื้ออหิวาตกโรค ช่วงเทศกาลสงกรานต์
         - รายงาน ๕๐๖
         - รายงานเฉพาะกิจโรคอุจจาระร่วงในสถานบริการ  รายสัปดาห์ (เริ่ม ๑  เมษายน  ๒๕๕๔

งบประมาณ        

 ๑.จากงบประมาณ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด

              ๑.๑  ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ สสจ.สนับสนุนงบประมาณค่าตรวจรพช.ทุกแห่งที่รพ.มุกดาหาร
             ๑.๒  ค่าชุดตรวจอาหาร และน้ำ  (งานโภชนาการรับผิดชอบ)                                               

 ๒. จากงบประมาณ UC ของแต่ละ CUP

                         -  ค่ายา ,ORS
๓. จากงบประมาณ  อบจ. ,เทศบาล,อบต.        
                          -  ค่าผงปูนคลอรีน, โซดาไฟ,น้ำยาไลโซล และเคมีภัณฑ์ อื่น ๆ
  
     
                                     ฝ่ายควบคุมโรค
                                       สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร
                                        พฤศจิกายน ๒๕๕๔

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น